เบอร์เกอร์ คิง วอนลูกค้าซื้ออาหารจากร้านอื่น เพื่อช่วยเหลือพนักงาน หลังอังกฤษเตรียมใช้มาตรการล็อกดาวน์ซ้ำ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าว CNN รายงานว่า เบอร์เกอร์ คิง ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังในสหราชอาณาจักร ได้ออกมาทวีตข้อความพร้อมรูป ขอร้องให้ประชาชนชาวอังกฤษช่วยซื้ออาหารจากร้านคู่แข่งอย่างแม็คโดนัลด์ , เคเอฟซี, ซับเวย์ และร้านอาหารอื่นๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือพนักงานกว่าพันคนที่กำลังจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยในข้อความยังกล่าวอีกว่า ลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านทางระบบเดลิเวอร์รี่, รับที่ร้าน หรือขับผ่านไดรฟ์-ทรู (Drive Thru)
หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศล็อกดาวน์ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมาวิกฤติอีกรอบ ซึ่งคำสั่งดังกล่าว บังคับให้ประชาชนไม่สามารถทานอาหารภายในร้านได้ และส่งผลกระทบต่อรายได้ของร้านอาหาร
ซึ่งทางเบอร์เกอร์คิงได้ปิดท้ายด้วยข้อความที่กล่าวว่า “สั่งเบอร์เกอร์จากเราเป็นเรื่องดี แต่จะสั่งเบอร์เกอร์ จากแม็คโดนัลด์ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เหมือนกัน” ขณะนี้สหราชอาณาจักรมียอดผู้ป่วยสะสมโรคโควิด-19 มากกว่า 1 ล้านร้าย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 46,000 ศพ
ก่อนหน้านี้ เผิง ฉ่วย ได้ออกมาโพสต์ข้อความกล่าวหา จาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผ่านเว็บไซต์เว่ยป๋อ สื่อสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ในประเทศจีน ว่าอดีตรองนายกฯได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอ และหลับนอนกับเธอกับร่วมสิบปี
โดยข้อความในโพสต์เล่าว่าในวันเกษียณอายุของ จาง เกาลี่ เขาได้ชวนเธอไปร่วมรับประทานอาหารอดีตรองนายกฯและภรรยา ก่อนที่นาย จาง เกาลี่ จะกดดันให้นักเทนนิสสาว ร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งเธอเล่าว่าบ่ายวันเกิดเหตุเธอได้แต่ร้องไห้และปฏิเสธ จาง เกาลี่ อย่างไรก็ตามเธอยอมรับในภายหลังว่าเธอกับนายจาง เกาลี่ เริ่มความสัมพันธ์แบบลับๆกัน
เลือกตั้งสหรัฐ : 10 สิ่งที่ควรรู้ก่อนรู้ผลลงคะแนนเลือกปธน.คนใหม่
การเมืองของสหรัฐอเมริกากลับมาร้อนแรงอีกครั้งเมื่อการ เลือกตั้งสหรัฐ กำลังเวียนมาถึงกำหนดครบรอบ โดยประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา คือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่มีคนสหรัฐทัั้งฝ่ายรักและฝ่ายชังมากพอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายสนับสนุนจะมีมากกว่า เพราะแม้จะมีกระแสต่อต้าน แต่สุดท้ายเขาก็ชนะการเลือกตั้งไปในครั้งที่แล้ว มาถึง ปี 2020 ปีแห่งความร้อนแรงท่ามกลางกระแสโควิดในสหรัฐที่ตัวเลขยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทา ตัวทรัมป์เองก็เพิ่งติดโควิดหาย การบริหารประเทศท่ามกลางสภาวะวิกฤติของเขานั้น จะส่งผลต่อคะแนนเสียงแค่ไหน มาปูพื้น 10 สิ่งพื้นฐานที่คุณควรรู้ก่อนทราบผล
1. เลือกตั้งสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่นี้มีกำหนดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. หรือวันพรุ่งนี้นั่นเอง
2. การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่าง พรรคเดโมเครต ส่ง โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบาม่า เข้าท้าชิงนายโดนัลทรัมป์ จากพรรครีพับพลิกัน
3. นายทรัมป์เข้าสู่แวดวงการเมืองเมื่อปี 2016 ขณะที่นายโจ ไบเดน คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองสหรัฐมาตั้งแต่ยุค 1970
4. รูปแบบการเลือกตั้งสหรัฐค่อนข้างซับซ้อน การที่แต่ละพรรคจะได้ตำแหน่งผู้ชิงประธานาธิบดีต้องมาจากการเลือกตั้งภายในของสมาชิกพรรคก่อน จนได้ตัวแทนมาชิงเก้าอี้ประมุขซึ่งจะพ่วงตำแหน่งรองประธานาธิบดีมาด้วยหนึ่งคน
จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกตั้งระบบประชาชนที่จะมาขึ้นในวันที่ 3 อเมริกันชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะลงคะแนนเสียง ซึ่งจะเป็นการลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีแบบทางอ้อม กล่าวคึอ ประชาชนจะกาเลือกคนที่ตนอยากให้ชนะเลือกตั้ง แต่เสียงทีได้จะส่งไปให้ electoral vote หรือ ผู้เลือกประธานาธิบดี ซึ่งแต่ละรัฐมีจำนวนไม่เท่ากัน แบ่งสัดส่วนกันตามจำนวนสัดส่วนประชากรรัฐและสัดส่วนจำนวนเก้าอี้ที่แต่ละรัฐมีในสภาคองเกรส เมื่อเลือกตั้งเสร็จ คณะผู้เลือกตั้งที่มาจากแต่ละรัฐซึ่งมาจากการโหวตของประชาชน มีทั้งหมดจำนวน 538 คน ถ้าผู้ใดได้รับคะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งก็จะได้เป็นประธานาธบดีและรอง
5. การเลือกตั้งสหรัฐครั้งที่แล้วเมื่อปี 2559 คู่ชิงดำชิงแดงของนายทรัมป์ คือ นางฮิลราลี่ คิลตัน ซึ่งผลโพลก่อนเลือกตั้งปรากฎกว่านางคลินตันคะแนนนำโด่ง แต่เมื่อลงคะแนนเสียงปรากฎว่านายทรัมป์เป็นฝ่ายชนะ ด้วยนโยบาย Make America Great Again
6. ขณะนี้ผลโพลก่อนการเลือกตั้งก็คล้ายกัน นายโจ ไบเดนมีภาษีดีกว่านายทรัมป์เล็กน้อย แต่ไม่ถ่างเท่าของนางฮิลราลี่ น่าสนใจว่าคนอเมริกันจะเลือกโดนัลด์ ทรัมป์อีกสมัยหรือไม่
7. เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ประธานาธิบดีคนใหม่และรองประธานาธิบดี จะเข้ารับพิธีสาบานตนในเดือนมกราคม
8. ความน่าสนใจคือ การเลือกตั้งสหรัฐ พลเมืองอเมริกันมีการตื่นตัวอย่างกว้างขวาง ศิลปินดาราฮอลลีวูดมีสิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็น หรือโพสต์เชิญชวนให้คนลงคะแนนเสียงคนที่ตนชื่นชอบ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง