‘รังสิมันต์ โรม’ รำลึกครบรอบ 90 ปี 24 มิถุนายน วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง

‘รังสิมันต์ โรม’ รำลึกครบรอบ 90 ปี 24 มิถุนายน วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง

รังสิมันต์ โรม โพสต์รำลึกครบรอบ 90 ปี 24 มิถุนายน วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชี้เป็นการเริ่มต้นที่ยังไม่เสร็จสิ้น นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กรำลึกครบรอบ 90 ปี ถึงวันที่ 24 มิถุนายนวันเปลี่ยนระบบการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยประชาชน

นาย รังสิมันต์ กล่าวว่า “พรุ่งนี้ วันที่ 24 มิถุนายน 2565 นับเป็นวันครบรอบ 90 ปี 

การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยประชาชน ซึ่งคณะราษฎรผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงในขณะนั้นพยายามสถาปนาอำนาจประชาชนโดยให้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองเพื่อความเสมอภาค

แต่เวลาที่ผ่านไป 90 ปี ที่นับได้ว่าเป็นชั่วอายุคนแล้ว ที่การสถาปนาอำนาจประชาชนไว้เสมอกันภายใต้รัฐธรรมนูญยังไม่สำเร็จ จากความพยายามแทรกแซงโดยกลุ่มอำนาจเก่าเป็นระยะๆ การรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงการพยายามลบล้างทั้งระบอบประชาธิปไตยและสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น ตั้งแต่การพยายามเอาเรื่องราวของผู้ก่อการคนสำคัญของคณะราษฎรออกจากประวัติศาสตร์ ไปจนถึงอุ้มหายหมุดคณะราษฎรไปในปี 2560 จนบัดนี้ก็ยังหาไม่พบ

อุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากหมุดคณะราษฎร ที่ถูกทำลายลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากชนชั้นนำเดิมและกลุ่มทหารที่พยายามหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับสวนทางกับกระแสโลก ถ่วงรั้งความเจริญก้าวหน้าของประเทศโดยไม่แคร์ความเป็นไปของกาลเวลา ตั้งแต่อดีตมาจนถึงวันนี้

ในโอกาสครบรอบ 90 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่พยายามสถาปนาอำนาจของประชาชน ผมเองอยากจะกล่าวคำชื่นชมยินดีให้กับความสำเร็จครั้งนั้น หากแต่การเปลี่ยนแปลงที่ทำลงไปยังไม่หยั่งรากลงอย่างแข็งแรง แต่ก็ยังดีที่แม้ทั้งรัฐธรรมนูญและกลไกประชาธิปไตยถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าขนาดนี้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้เพื่อปลายทางแห่งประชาธิปไตยอยู่เช่นเดิม

หากการเปลี่ยนแปลงเมื่อ 90 ปีก่อน คือการเริ่มต้นที่ยังไม่เสร็จสิ้น ผมก็หวังจะเห็นการสำเร็จภารกิจการสถาปนาประชาธิปไตยในประเทศ เอาทุกคนมาอยู่อย่างเสมอภาคเป็นธรรมใต้รัฐธรรมนูญเดียวกันให้ได้ก่อนจะครบ 100 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง 2475 แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง เรามาปักหมุดแห่งการเปลี่ยนแปลงกันอีกครั้งเพื่อสืบสานเจตนารมณ์แห่งประชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จกันเสียที”

‘ชัชชาติ’ ชี้ ทรงผมไม่มีผลกับการเรียน แต่ต้องมีจุดที่เหมาะสม

ชัชชาติ แสดงความเห็น ทรงผมไม่มีผลกับการเรียน ขอให้ตั้งใจเรียนและรับผิดชอบ และต้องมีจุดที่เหมาะสม ชี้การเปลี่ยนแปลงต้องค่อยไปเป็นค่อยไป

นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง ซึ่งเป็นหนี่งใน 437 โรงเรียนต้นแบบปลอดกัญชา-กัญชง เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีการนำกัญชาไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายชัชชาติถึงประเด็นเรื่องกฎระเบียบทรงผมว่า คิดเห็นอย่างไรในแง่นโยบาย ซึ่งนาย ชัชชาติ ก็ได้เห็นความเห็นในประเด็นนี้ว่า “ทรงผมไม่ได้มีผลอะไรกับการเรียนไม่ว่าจะไว้ผมยาวหรือผมสั้น แต่ขอให้ตั้งใจเรียนและมีความรับผิดชอบ แต่ถึงอย่างไรก็ควรต้องมีจุดที่พอดีและเหมาะสม ไม่ใช่ปล่อยให้ย้อมผมหลากสีมาเรียน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต้อค่อยเป็นค่อยไป และต้องมีกรอบในระดับหนึ่ง”

ขณะที่ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เรื่องทรงผมเป็นเรื่องที่เด็กนักเรียนเรียกร้อง ซึ่งทาง กทม. และโรงเรียนประกาศไว้อยู่แล้วว่าให้เหมาะสมโดยไม่ต้องตัดสั้นแบบสั้นเตียน แต่ไว้รองทรงได้ ส่วนนักเรียนหญิงก็ให้เก็บให้เรียบร้อย โดยดูความเรียบร้อยเป็นองค์รวมไม่ต้องกำหนดว่าไว้กี่เซนติเมตร

แต่ปัจจุบันก็ยังมีเรื่องย้อมสีผมซึ่งก็ยังไม่อนุญาต แต่ก็จะมีการทบทวนเพราะเป็นเรื่องตัวปัจเจกบุคคลและยุคสมัย พร้อมระบุว่า โรงเรียนสังกัด กทม.อาจจะมีการนำร่องโดยเฉพาะเรื่องชุดลูกเสือ จะมีประกาศออกมาเร็วๆ นี้ว่า มีแนวปฏิบัติอย่างไร เพราะบางเรื่องมองว่าอยู่ที่หัวใจของเนื้อหามากกว่า ส่วนเรื่องโครงการชุดนักเรียนฟรีมีอยู่แล้วจะให้ 2 ชุด ส่วนใครจะซื้อเพิ่มก็ได้เพราะเป็นเรื่องปัจเจก แต่ผู้ว่าฯ เน้นย้ำให้ดูเรื่องความพอเพียงและให้เร็ว

ทางสำนักงานฯ จะได้ดำเนินการแจ้งผู้ร้องให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ต่อไป ผ่านพ้นช่วงเวลาที่มาร์กาเร็ตได้นำพรรคอนุรักษนิยมชนะการเลือกตั้งมาได้ ต่อมาในอีก 39 ปี หรือ พ.ศ. 2565 ลิซ ทรัสส์ก็เดินตามรอยคว้าชัยชนะการเลือกตั้งมาสู่พรรคอนุรักษนิยมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากที่ลิซ ทรัสส์จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอันทรงเกียรติอย่างหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ เธอยังสามารถจารึกชื่อ ‘ลิซ ทรัสส์’ ลงบนหน้าประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรว่าเป็นนายกหญิงคนที่ 3 ของประเทศอังกฤษได้อีกด้วย

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า